คนโบราณหากเจอวัตถุธาตุชนิดใดที่มีค่า ที่คนส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าวัตถุธาตุนี้มีค่า หากยาก ไม่สามารถที่จะนำมาแบ่งปันกันได้อย่างทั่วถึง พวกเขาก็จะนำมาสร้างสิ่งที่เป็นส่วนรวม เช่น พระพุทธรูปขนาดใหญ่สำหรับกราบไหว้บูชา ไม่เช่นนั้นก็แกะเป็นพระพุทธรูปขนาดเล็กเพื่อบรรจุพระเจดีย์เป็นพุทธบูชาให้ชนรุ่นหลังได้กราบไว้บูชาอีกประการหนึ่งด้วย
ในพระเจดีย์สมัยเก่าเราจึงมักจะเห็นพระพุทธรูปที่ทำด้วยทองคำบ้าง เงินบ้าง หรือวัตถุธาตุวิเศษอื่น ๆ บ้าง เป็นต้นว่า หินใส เหล็กไหล เหล็กโลหะพิเศษ หินพิเศษ งาช้าง เขากวางคุด ที่คนในสมัยโบราณนำมาบรรจุไว้
พระองค์ที่ผมนำมาโชว์นี้ก็เหมือนกัน ผมเชื่อว่าสร้างในสมัยโบราณหลายร้อยปี คงจะเป็นหินพิเศษอะไรบางอย่าง มีคุณลักษณะพิเศษอะไรบางอย่างพวกเขาจึงได้นำแกะเป็นพระพุทธรูปขนาดเล็ก ด้วยเครื่องมือในการแกะในสมัยนั้นไม่ละเอียดพอ งานจึงออกมาไม่ละเอียด มีรอยเหลี่ยมบ้าง ส่วนทองที่หุ้มองค์พระนั้น ผมเข้าใจว่า ไม่ใช่ช่างเดียวกันกับที่ใส่กรอบทอง ทองที่หุ้มองค์พระน่าจะนำมาหุ้มก่อนที่จะนำมาให้ช่างคนนี้เลี่ยม
พุทธคุณของพระหินหยก
ผมเเขียนตามความเชื่อของผมนะครับ พุทธคุณของพระหยกน่าจะเด่นด้านความสุขสงบร่มเย็น ไปที่ไหน อยู่ที่ไหนก็สร้างความร่มเย็นให้แก่ที่นั้น ไม่มีพิษภัยกับใคร หากสถานที่ไหนร้อนด้วยธาตุต่าง ๆ มีดินน้ำไฟลมเป็นต้น หากอัญเชิญพระหยกไป ก็จะปรับสถานที่แห่งนั้นให้ปกติสุข มีความสงบร่มเย็น นอกจากนั้น ยังเชื่อว่าสามารถกันไฟ กันฟ้าผ่า กันคนคิดร้ายพยาบาทอีกด้วย โดยส่วนตัวผมคิดว่าบ้างสักหนึ่งหลังควรที่จะมีพระหยกไว้บูชาด้วยครับ