
เห็นรูปแล้วอย่าเพิ่งขำผมนะครับ ถ้าท่านยังไม่ได้เห็นของจริง (พูดแบบเป็นปริศนาไว้หน่อย) โลหะทรงรีมีผิวเลื่อมมันสวยงามถูกห่อด้วยผ้าขาวมัดด้วยสายสิญจน์อย่างมั่นคงเหมือนประหนึ่งว่ากลัวโลหะชิ้นนี้หลุดล่วงลอยไป
โลหะห่อด้วยผ้าขาวนี้ ผมได้จากพระอาจารย์วัดป่าแห่งหนึ่งแถวจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งท่านให้ผมมาหลายปีแล้วครับ ท่านบอกว่าเป็นเหล็กไหล ผมก็ไม่ทราบว่าใช่หรือไม่ แต่ในเมื่อท่านให้ด้วยจิตเมตตาไม่ได้คิดมูลค่าใด ๆ และผมก็ไม่ได้ถวายอะไรท่านมาก่อน เมื่อท่านได้เมตตาหยิบยื่นให้ก็เป็นมงคลแก่ผลแล้วครับ แม้จะเป็นเศษเงินปากผีหรือก้อนกรวดก็ตาม
เหล็กไหล คืออะไร
ในเว็บไซต์ th.wikipedia.org ได้ให้ข้อมูลเหล็กไหลไว้อย่างน่าสนใจ ซึ่งผมขอนำมาให้ท่านอ่านเสริม อาจจะปรับเปลี่ยนข้อความบ้างนิดหน่อย ดังนี้
เหล็กไหล เป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนื่งซึ่งอยู่ในความเชื่อของคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (มาเลเซียเรียกเหล็กไหลว่า บือซีรีเละ) เหล็กไหล มีมากมายหลายตระกูล แต่ที่เชื่อกันเป็นอย่างมากนั้นคือเชื่อว่าเหล็กไหลจะฝังตัวอยู่ในถ้ำมีลักษณะสีดำคล้ายนิล เมื่อถูกไฟลจะยืดหดได้ วิธีการไปเอาเหล็กไหลหรืออัญเชิญเหล็กไหลนั้นจะต้องใช้น้ำผึ้งชโลมก้อนเหล็กไหลแล้วจึงใช้ไฟลนเหล็กไหลถึงจะยืดออกมากินน้ำผึ้งไปพร้อมกับเล่นไฟไปด้วย แล้วก็ลนไฟไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเหล็กไหลนั้นยืดตัวออกมาเรื่อย ๆ บางครั้งมีขนาดเท่าเส้นด้ายก็มี จากนั้นก็จะทำการตัดตัดขาด การทำพิธีอัญเชิญเหล็กไหล ตัดเหล็กไหลนี้ ต้องกระทำโดยผู้ที่มีวิชาอาคม หรือเป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์กับเหล็กไหลนั้นมาก่อน เช่นเคยเป็นเจ้าของมาก่อน เคยดูแลมาก่อนหรือเป็นคนที่มีบุญบารมีสมควรแก่เหล็กไหลนั้น ๆ เนื่องจากเหล็กไหลเป็นของศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีเทพเจ้า เจ้าป่า เจ้าเขา พญานาคหรือยักษ์รักษาอยู่และพร้อมที่จะทำร้ายผู้เข้าไปรบกวนได้ เหล็กไหลที่ได้มานั้นว่ากันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก นิยมนำมาฝังไว้ตามร่างกาย ผู้ที่มีเหล็กไหลไว้ในความครอบครองกล่าวกันว่าไม่มีอะไรที่สามารถจะทำร้ายเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นมีด ปืน หรือแม้กระทั่งระเบิด ดินปืนทุกชนิดไม่สามารถทำงานได้หากอยู่ในอาณาเขตที่มีเหล็กไหลอยู่

เหล็กไหลแบ่งเป็นสามระดับหรือสามชนิด
- เหล็กไหลระดับแรก หรือเหล็กไหลน้ำหนึ่ง ก็คือตัวเหล็กไหลเอง มีความแวววาว เป็นส่วนที่ลนไฟให้ยืดได้ เป็นเหล็กไหลส่วนที่มีอิทฤทธิ์มากที่สุด ซึ่งก็ยังแยกออกมาอีกหลายประเภทตามคุณลักษณะ เช่น เหล็กไหลปีกแมลงทับหรือเหล็กไหลโกฐปี, เหล็กไหลเงินยวงหรือเหล็กไหลชีปะขาว, เหล็กไหลเพชรดำ, เหล็กไหลท้องปลาไหล
- เหล็กไหลระดับสอง ได้แก่รังเหล็กไหล มีลักษณะแวววาวรองจากตัวเหล็กไหล ไม่สามารถลนไฟให้ยืดได้ เป็นส่วนที่ห่อหุ้มตัวเหล็กไหลอีกทีไว้เป็นฐานรองเหล็กไหลแข็งแน่นติดกับผนังถ้ำ เช่น โคตรเหล็กไหล, แร่เกาะล้าน, แร่เม็ดมะขาม, เหล็กไหลทรหด
- เหล็กไหลระดับสาม หรือขี้เหล็กไหล มีลักษณะคล้ายน้ำตาเทียน ดำด้าน แข็งแต่ทุบให้แตกได้ง่าย เกิดจากการที่เหล็กไหลเคลื่อนผ่านทางนั้นแล้วเกิดเป็นขี้เหล็กไหลขึ้นมา กล่าวกันว่าในระดับขี้เหล็กไหลนี้แทบไม่มีฤทธิ์ใด ๆ เลย