ตะกรุดโทนม้าเสพนาง ครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก ท่านไดัสร้างขึ้นตามตำราที่สืบทอดกันมาจากครูบาอาจารย์รุ่นเก่าแต่สมัยโบราณ ตะกรุดม้าเสพนางไม่ค่อยมีการสร้างกันนัก ที่สร้างและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมากด้วยประสบการณ์ก็ต้องตะกรุดโทนม้าเสพนางของครูบา พรหมเสโน แห่งวัดบ้านเด่น จังหวัดตาก
ตะกรุดโทนม้าเสพนางครูบาวัง ท่านสร้างขึ้นไว้พื่อแจกให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดนำติดตัวใช้ และเป็นที่กล่าวขานกันว่าเห็นผลเด่นทางเรื่องเสน่ห์เมตตาเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นยังมีอทธิคุณในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายก็เป็นเยี่ยม

วิธีดูตะกรุด ม้าเสพนาง ครูบาวัง
วิธีการดูตะกรุดโทนม้าเสพนางของครูบาวังอย่างคร่าว ๆ ตะกรุดโทนม้าเสพนาง ครูบาวัง วัดบ้านเด่น ในยุคต้นนั้นครูบาวังได้รสร้างขึ้นตะกรุดขึ้นมาก่อนปี 2500 จนถึงหลังปี 2500 กว่า ๆ ตะกรุดโทนม้าเสพนางในยุคต้นนั้นมีการสร้างขึ้นหลายขนาด มีขนาดตั้งแต่ 2 นิ้วขึ้นไป ส่วนวัสดุในการสร้างนั้น ท่านใข้วัสดุที่พอหาได้ในยุคนั้น เช่น เนื้อทองฝาบาตร ซึ่งมีขนาดค่อนข้างหนา ซึ่งนำมาจากฝาบาตรจริง ๆ ต่อมาจีงใช้เนื้อทองแดงซึ่งเริ่มเป็นมาตรฐานยิ่งขึ้น
ตะกรุดม้าเสพนางในยุคต้นอาจจะสังเกตได้ง่าย ๆ จากวัสดุที่นำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นทองฝาบาตรหรือเนื้อทองแดงก็ตาม จะเป็นแผ่นค่อนข้างหนา ฝีมือการรีดแผ่นแบบบ้าน ๆ ตะกรุดในยุคต้นนั้นจะเป็นตะกรุดพับหรือตะกรุดม้าเสพนาง รวมถึงตะกรุดอื่น ๆ ของท่าน จะค่อนข้างหนา
ขั้นตอนในการสร้างตะกรุดโทนม้าเสพนางของครูบาวังท่าน วัดบ้านเด่น อันดับแรกท่านจะดูฤกษ์ดูยามที่เหมาะสมตามตำรา เมื่อได้ฤกษ์ยามแล้วท่านจะนำแผ่นทองฝาบาตรหรือทองแดงที่ลูกศิษย์ได้มีการจัดเตรียมมาไว้แล้ว นำมาลงอักขระเลขยันต์ตามตำรา จารคาถาม้าเสพนาง จากนั้นท่านก็จะนำมาม้วนให้เรียบร้อย แล้วครูบาวังท่านก็จะอธิษฐานจิตกำกับอีกทีเป็นอันเสร็จพิธี
ตะกรุดม้าเสพนางนี้ ส่วนมากแล้วครูบาวังท่านจะแจกให้กับลูกศิษย์ที่ยังโสดอยู่เพื่อนำติดตัวไปใช้ เพราะว่าตะกรุดม้าเสพนางนี้มักให้ผลในด้านความรักความใคร่ เสน่ห์แรงเป็นอย่างมาก ทำให้คนรักคนหลง ติดต่อเจรจาพูดจาก็เยี่ยมตรึงใจ และท่านมักกำชับหนักหนาให้นำไปใช้ในทางที่ถูกที่ควร อย่าได้ทำให้ใครเสียหายเดือดร้อน ส่วนคนที่ม่ครอบครัวแล้วท่านจะไม่ทำให้ใช้
การสังเกตดูตะกรุดม้าเสพนางครูบาวัง อันดับแรกต้องดูที่ความเก่าของเนื้อโลหะที่ทำ ว่ามีความเก่าถึงยุคหรือไม่ สีของทองแดงตะกรุดโทนม้าเสพนางของครูบาวังมีเอกลักษณ์พิเศษ ซึ่งบางดอกจะมีสีแดงจัดเหมือนเนื้อทองแดงเถื่อน เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของตะกรุดม้าเสพนางครูบาวังคือท่านจะตัดที่ปลายของแผ่นทองแดงทั้งสองข้าง ท่านจะตัดที่ปลายเข้ามาหาตัว นับว่าเป็นลักษณะเฉพาะตะกรุดม้าเสพนางของท่าน แต่ก็มีที่ไม่ได้ตัดปลายก็มีบ้าง แต่จะพบได้น้อย บางดอกท่านจารนอกในหัวท้ายลายมือท่านชัดเจนเป็นส่วนทำให้พิดูง่ายขึ้นอีก

ตะกรุดม้าเสพนาง ครูบาวัง ยุคหลัง ๆ ซึ่งมีการสร้างตะกรุดโทนม้าเสพนางประมาณปี2510 เป็นต้นไป ช่วงนี้เริ่มมีผู้ต้องการเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และทางวัดเองก็ออกตะกรุดม้าเสพนางให้บูชาเพื่อนำรายได้มาสร้างถาวรวัตถุภายในวัด จึงเป็นเหตุให้ท่านทำไม่ทัน แต่ก็จะมีลูกศิษย์ใกล้ชิดท่าน ช่วยท่านทำตะกรุด ตะกรุดม้าเสพนางในยุคหลังก็คงยังมีวิธีในการทำเหมือนเดิมต่างตัว ต่างแต่เนื้อทองแดงที่นำมาทำตะกรุดจะมีความบางลงอย่างเห็นได้ชัด และรีดเป็นระเบียบสวยงามสม่ำเสมอกัน
ตะกรุดม้าเสพนางของครูบาวัง วัดบ้านเด่น จังหวัดตาก เด่นสุดด้านมหาเสน่ห์ คนรักคนหลง ใครเห็นก็อยากพูดอยากคุยด้วย อยากคบหาสมาคมด้วย อยากเป็นเพื่อน อยากเป็นคนรัก ชนิดว่าเห็นหน้าแล้วอยากขอเบอร์โทรเลย นอกจากนั้น ก็ยังเป็นผลมาทางด้านค้าขาย การติดต่อธุรกิจอีกด้วย ค้าขายดี ลูกค้าติดใจ ซื้อแล้วก็กล้บมาซื้ออีก ทำให้ลูกค้าคิดถึงเรา นีกถึงเราเมื่อต้องการที่จะซื้อของ
คาถาบูชาตะกรุดม้าเสพนาง
กุลุ กาอัปปะติโยมาเส อาคัจฉายะ อาคัจฉามิ
จิตติ มิตติ จิตติ กิตติ โอมวิสาขา มหาโยนี ปิยังภาเวยยะ อาคัจฉาหิ
เมตตังพลัง ราเคเอหิ เอหิ สวาหะมะ
โอม อัสสวะมหาลึงคะ มหาปิโย ภาเวยยะ อาคัจฉันติ เมตตังพลัง ราเคเอหิ เอหิสวาหะมะ อวัญเจวะเวทะนัง อะอะอุชีวัง ภุมมะจิตตัง
พระเพลิงเจ้าเอ๋ย ให้เอาจิตตะแห่งราคะ จิตตังแห่งราคะ คนทั้งหลายมาใส่จิตตะราคะแห่งข้า
กุลุ กาอัปปะติโยมาเส อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ จิตติ มิตติ จิตติ กิตติ
แล้วให้ระลึกถึงบารมีของครูบาวังและครูอาจารย์ผู้เป็นเจ้าตำรับวิชา จากนั้นก็อธิษฐานเอาตามใจปรารถนา
คาถาม้าเสพนางอีกแบบ
“โอม กามะตัณหา ภะวะตัณหา วิภะวะตัณหา กามะราคะ ตัณหา มะโน รัมมา ปิยา สวาโหม” 3 จบ
อานุภาพแห่งตะกรุดม้าเสพนางครูบาวัง
- เป็นเมตตามหานิยมอย่างสูง
- มีเทพชั้นสูงเฝ้าพิทักษ์รักษา เทวดาปกป้อง
- เป็นมหาอำนาจศัตรูที่คิดร้ายจะแพ้ภัยตัวเอง อุปเท่ห์การใช้ให้ ตั้งความปรารถนาไว้ในทางเมตตามหานิยม และทางมหาเสน่ห์ และเป็นโภคทรัพย์ ก็จะสำเร็จดังประสงค์ทุกประการ ท่านว่าไว้อย่างนั้น