มีเรื่องเล่าว่า สองสหายอุบาสก ได้สาธกธรรมะต่อกันและกันว่า
อุบาสก 1 ถามว่า “การเป็นอยู่ในอบายภูมินั้น ทำบุญได้หรือไม่?
อุบาสก 2 ตอบไปแบบฟันธงเข้าไปเลย “ขึ้นชื่อว่าอบายภูมิ คือภูมิที่ขาดความเจริญ ไม่สามารถจะทำบุญกุศลใด ๆ ได้”
ข้าพเจ้าได้ฟังแล้ว มีเรื่องให้ฉุกคิดต่าง ๆ มากมาย และปัญหานี้ ควรตอบให้เป็นประเด็น ๆ ไป ไม่ใช่ฟันธงตอบไปเสียทีเดียว เราต้องมาตีความหมายของอบายภูมิอะไร มีอะไรบ้าง อบายแปลความหมายแบบพื้น ๆ คือดินแดนหรือภูมิที่หาความเจริญไม่ได้ หรือภูมิที่มีความเสื่อม อบายภูมิในพระพุทธศาสนามี ๔ ได้แก่
สัตว์นรก , เปรต , อสูรกาย และสัตว์เดรัจฉาน
มาเข้าประเด็นกันดีกว่า สัตว์ที่อยู่ในบายภูมิทำบุญได้หรือไม่ อันนี้ตอบได้เลยว่า แล้วแต่ประเภทของสัตว์หรือภูมิของสัตว์นั้น ๆ ที่อยู่ อบายภูมิที่เป็นสัตว์เดรัจฉานสามารถทำบุญได้ มีตัวอย่างมากมาย เช่น ช้างและลิงที่ทำการอุปัฏฐากพระพุทธองค์ป่าใกล้หมู่บ้านปาลิเลยยกะ ทำบุญได้ไหม ได้บุญไหม ทราบว่าสัตว์ทั้งสองเหล่านั้นหลังจากตายไปแล้วเข้าสู่สุคติ เพราะกุศลนั้น
มีเรื่องเล่าในคัมภีร์ว่า ค้างคาว ที่ฟังเสียงพระสวดมนต์ในถ้ำ แล้วหล่นมาตายในขณะที่จิตเป็นกุศล ก็ปรากฏว่าเข้าถึงสุคติ เพราะเหตุแห่งกุศลนั้น
สุนัข ที่เห่าไล่สัตว์ร้าย เพื่อป้องกันอันตรายแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า หลังจากสุนัขนั้นตายไปแล้ว ปรากฎว่าได้เกิดเป็นโฆสกเทพบุตรสุดหล่อ มีเสียงกึกก้องไปทั่ว เพราะอานิสงส์แห่งการเห่า
และตัวอย่างที่ยิ่งใหญ่ อย่างปฏิเสธไม่ได้ พระพุทธองค์ครั้งบำเพ็ญบารมีพระโพธิสัตว์ ได้เคยถือกำเนิดเป็นสัตว์มากมาย นั่นก็คือการบำเพ็ญบารมีอย่างหนึ่งนั่นเอง
ฉะนั้น อยู่ในอบายภูมิทำบุญได้หรือ ทำได้ ขึ้นอยู่กับกำเนิดของสัตว์นั้นว่าอยู่ในภูมิใด ที่ท่านว่า อบายภูมิ คือดินแดนหรือภูมิหรือชนชั้นหาความเจริญไม่ได้ หรือชั้นแห่งความเสื่อม ท่านหมายถึงเสื่อมจากความเป็นพระอริยบุคคล เสื่อมจากการบรรลุธรรมเป็นพระอริยต่างหาก หมายความว่าถ้าอยู่ในอบายภูมิ ถึงจะทำบุญมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถบรรลุธรรมเป็นอริยบุคคลได้…