ผมรู้จักเครื่องรางปลัดขิกตั้งแต่เกิด (เกิดมานาน) โดยช่วงสมัยหนึ่งที่ต่างจังหวัดจะมีข่าวลือผีแม่หม้าย ซึ่งเป็นข่าวลือสุดคลาสสิก แต่มันสร้างความน่ากลัวเป็นอย่างมาก คุณลองคิดดูสมัยนั้นไม่มีโทรศัพท์ ไฟฟ้าก็เข้าไม่ทั่วถึง ตื่นขึ้นมาแต่ละเช้าต้องได้ยินข่าวว่า ผีแม่หม้ายเข้าบ้านคนนั้น ผีแม่หม้ายทำให้คนโน้นตาย ผีแม่หม้ายมาเอาผู้ชายไปเป็นผัว ตอนนั้น มีวิธีป้องกันผีแม่หม้ายอยู่ 2 ทาง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าใครคิดวิธีแกเเหล่านี้ แต่ก็ถูกบอกต่อ ๆ กันมา
- ให้นำผ้าเหลืองของพระมาทำเป็นฝ้ายผูกแขน จะป้องกันผีแม่หม้ายมาเอาเป็นผัวได้ เพราะผีแม่หม้ายกลัวผ้าเหลืองของพระ
- ให้แขวนปลัดขิกขนาดใหญ่ไว้หน้าบ้าน ประมาณว่าผีแม่หม้ายมาเห็นปลัดขิกขนาดใหญ่แล้วก็หันมาสนใจเจ้าแท่งปลัดขิกขนาดใหญ่แทนแล้วไม่เข้าไปหาผู้ชายในบ้านนั้นไปเป็นผัว
ตอนนั้นผมยังเด็กอยู่ อายุประมาณ 6-7 ปี เห็นจะได้ ส่วนพี่ผมกำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่น เขากลัวว่าจะถูกผีแม่หม้ายมาเอาตัวไป ครั้นจะทำปลัดขิกแขวนไว้หน้าบ้านก็ไม่ได้ เพราะพ่อดุมาก ไม่ให้ทำ พ่อบอกว่าเป็นของพวกเดียรถีย์ (พ่อนักบวชเก่า ศึกษาเล่าเรียนพระพุทธศาสนาโดยตรง) ด้วยความกลัวผีแม่หม้าย ตกกลางคือมาพี่จึงแอบเอาปลัดขิกขนาดพกพามัดใส่ไม้ยื่นโผล่ออกมาทางหน้าต่างห้องนอนไว้กันผีแม่หม้าย ทำแล้วก็อุ่นใจสบายใจ นอนหลับได้ในระดับหนึ่ง ตื่นเช้าขึ้นมาต้องรีบเก็บก่อนที่พ่อจะมาเห็นเข้า
ทุกวันนี้ ไม่กลัวแล้วครับ แต่ก็ยังชอบปลัดขิกอยู่ แล้วความเชื่อในการพกพาบูชาปลัดขิกทุกวันนี้ก็เริ่มเปลี่ยนไป หันมาเน้นในด้านเมตตามหาเสน่ห์ จีบสาว คนรักคนหลง หรือในด้านค้าขายโชคลาภเป็นจุดขายไปเสียแล้ว รวมทั้งเครื่องรางสมัยใหม่อื่น ๆ ที่มักสร้างจุดขาย 2 อย่าง คือด้านมหาเสน่ห์เพลย์บอย และด้านโชคลาภปากท้อง
สำหรับปลัดขิกที่ผมนำมาประกอบบทความนี้ เป็นของลุงคนหนึ่งซึ่งเสียชีวิตนานแล้ว ลูกชายเขานำปล่อยให้ผม ครอบครัวนี้ไม่รวยหรอกครับ ถ้ารวยหรือมีอันจะกินคงไม่นำสิ่งนี้ออกมาขายให้ผม แต่ดูเหมือนว่าพ่อเขาซึ่งเป็นเจ้าของปลัดขิกนี้จะมีนิสัยเจ้าชู้เพลย์บอยอยู่ไม่น้อย สงสัยว่าปลัดขิกชุดนี้น่าจะเด่นด้านมหาเสน่ห์เพลย์บอยในเรื่องอย่างว่ามากกว่า
