เกิดอะไรขึ้น เมื่อเจ้าภาพนิมนต์พระฉันที่ร้านอาหารในอเมริกา
เวลาเจ้าภาพร้านอาหารนิมนต์พระไปเจริญพระพุทธมนต์และถวายภัตตาหาร เจ้าภาพมักถ่ายรูปขณะพระฉันไว้ดูเป็นอปราปรเจตนา (คือเจตนาที่ระลึกนึกถึงแล้วปลื้มใจว่าได้ทำบุญ) เจ้าภาพและผู้ร่วมงานดูแล้วน่ะดึใจ ปลื้มใจ เพราะตนได้ทำบุญเอง อยู่ในเหตุการณ์เอง ถ่ายภาพเอง รู้เห็นทุกอย่างเอง
แต่ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์และมีจิตอกุศลเป็นทุนอยู่แล้วนะสิคิดว่าพระไปดินเนอร์ เห็นรูปแล้วคิดว่าพระไปทานข้าวเวลาเย็นกัน (ถ้าพระไปดินเนอร์จริง น่าปลื้มใจจนต้องมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไว้เชียวหรือ)
ไหน ๆ ผู้เขียนก็พูดมาถึงจุดนี้แล้ว การที่สื่อต่างๆ หรือ เพจต่างๆ นำภาพที่เจ้าภาพถ่ายไว้ดูเป็นเครื่องระลึกการทำความดีหรือการทำบุญไปแชร์ หรือโพสต์ในทางเสียหายต่างๆ นานา เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนำภาพคนอื่นไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมมีผลเสียเป็นอย่างมาก ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด กล่าวในสิ่งที่ตนเองไม่รู้จริง นำความเสื่อมเสียมาให้ผู้อื่น ทำให้เกิดความชิงชังนำไปสู่คำพูดที่หยาบคายและก้าวร้าวได้ นำเสนอสิ่งที่คลาดเคลื่อนจากความจริง ร้านอาหารบางร้านหรือเจ้าภาพบางคนเขาบอกว่าไม่กล้านิมนต์พระไปฉันในร้าน เพราะกลัวมีใครมาถ่ายภาพไปลงข่าวในทางเสียว่านิมนต์พระไปฉันเวลาบ่ายหรือเย็น เพราะถ่ายภาพที่ไรมันก็มีแต่ภาพแสงไฟสลัวๆ ทุกที นี่ก็เป็นผลเสียของการสื่อบางสื่อ หรือเพจบางเพจนำภาพไปโพสต์ในทางเสียหาย
มาพูดถึงร้านอาหารในอเมริกา เท่าที่เห็น มันไม่มีร้านข้างถนนที่เปิดรับลมโล่งโจ่ง แมลงวันบินว่อนเหมือนประเทศไทยเรา (อ่าจจะมีก็ได้นะ เพียงแต่ไม่เคยเห็น ไปเท่าที่ไป เห็นเท่าที่เห็น) มีแต่ร้านในห้องแอร์ เปิดไฟสลั่วๆ เพดานทาสีดำๆ