ดื่มสุราเพื่อเข้าสังคม เป็นบาปหรือไม่
มีบางคนกล่าวว่า จำเป็นต้องดื่มเพื่อเข้าสังคม ถ้าเราไม่ดื่มก็เข้ากับเขาไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้จะทำอย่างไรดื่ม หากเมาแล้วนอนเสียจะเป็นบาปหรือไม่?
ตามหลักความเป็นจริงแล้ว การกล่าวอ้างในสิ่งที่ตนกระทำไปนั้น เพราะสังคม เพราะคนนั้นคนนี้เป็นต้น พระสารีบุตรเถระได้กล่าวแก่ธนัญชานิพราหมณ์ผู้เป็นข้าราชการผู้ใหญ่แต่ฉ้อหลวงบังราษฎร์ แล้วอ้างว่าตนทำเพื่อพ่อแม่ บุตรภรรยา เป็นต้นความว่า
คนที่ทำความผิดแล้วอ้างว่าทำเพื่อใครก็ตามเวลาตายไปจะบอกนายนิรยบาลเขาได้ไหมว่าที่ตนทำผิดไปเพราะต้องทำเพื่อคนอื่นขออย่าได้ถือเป็นความผิดเลย หรือคนที่เราอ้างว่าเราทำความผิดไปเพื่อพวกเขาจะไปขอร้องต่อยมบาลว่า ขออย่าได้ลงโทษเขาเลย คน ๆ นี้ต้องทำความผิดเพื่อพวกตน ซึ่งปรากฏว่า ไม่มีข้ออ้างเพื่อไม่ต้องรับโทษสำหรับการกระทำความผิดไม่ว่าจะเพื่อใคร โดยใครก็ตาม
“นี่คือหลักสากลแม้ในด้านกฎหมายก็มีลักษณะเดียวกัน”
ในกรณีของการกล่าวว่าตนจำเป็นต้องดื่มสุราเพื่อสังคม ซึ่งมีคนกล่าวอ้างกันเป็นอันมากนั้น มีหลักในการพิจารณาเช่นเดียวกับที่พระสารีบุตรกล่าวไว้ แต่ในกรณีของการดำรงชีวิตแบบชาวบ้านนั้น เราจำเป็นต้องมองปัญหาตามที่มีอยู่เป็นอยู่ในสังคมว่าข้อเท็จจริงในสังคมเป็นอย่างไร?
การดำรงชีวิตของคนในโลกนั้นเมื่อจำแนกออกจะได้เป็นกลุ่มๆจะได้ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
1.ถือเอาความคิดเห็นของตนเป็นประมาณในการตัดสินปัญหา การแก้ปัญหา การทำงานเป็นต้น ซึ่งออกจะเป็นการเสี่ยงมากอยู่
2.ถือเอาความคิดเห็นของสังคมคือคล้อยตามความเคลื่อนไหวของสังคม ค่านิยมของสังคม ปัญหาในเรื่องนี้ตัวกำหนดความถูกผิดจึงอยู่ที่สังคมว่า สังคมที่เราเคลื่อนไหวไปตามนั้น เป็นสังคมประเภทใด?
3.ถือเหตุผลความถูกต้อง ตามหลักธรรม กฎหมาย จารีตประเพณี เป็นมาตรฐานในการดำรงชีวิตซึ่งเป็นเหมือนการขับรถไปตามกฎจราจร อันตรายไม่อาจเกิดขึ้นได้ ตราบเท่าที่เขายังยึดมั่นในหลักการอันถูกต้องนั้นๆอยู่
หลักในการดำรงชีวิต 3 ระดับนี้ สำหรับบัณฑิตแล้ว แม้การถือความคิดเห็นของตนเอง หรือสังคมเป็นหลักในบางกรณีก็ตาม แต่ความคิดเห็นของตนและสังคมนั้นจะต้องยุติด้วยเหตุผลและความถูกตรงนัยที่ 3 ตลอดไป
เพราะว่าถ้าคนจะยึดถือสังคมเป็นประมาณแล้วหากเป็นสังคมของคนดีก็ดีไปหาก สังคมของคนพาลเล่าจะทำอย่างไรกัน?
คนเราจะต้องอ้างว่าตนต้องคอรัปชั่นเพราะหากไม่ทำเช่นนั้นก็อยู่ร่วมกับพวกคอรัปชั่นไม่ได้ ต้องขโมยต้องเล่นการพนันต้องหมกมุ่นในอบายมุขเป็นต้น เพื่อต้องการสถานะคือการยอมรับของสังคมอยู่ตลอดไป ทำให้เป็นคนขาดหลักการดำรงชีวิตกลายเป็นท่อนไม้ลอยน้ำจนกว่าจะเน่าเปื่อยผุพังไปอย่างนี้จะไหวหรือ
การดื่มเหล้าเพื่อให้ตนสามารถเข้าสังคมได้ สังคมอะไรก็คือสังคมคอสุราก็มีลักษณะอย่างนั้น ย่อมไม่พ้นการประพฤติผิดศีลไปได้ ผู้มีปัญญาจะต้องเลือกเอาระหว่าง “ฐานะของผู้มีศีลกับไร้ศีล” จะเลือกเอาสองอย่างในขณะเดียวกันไม่ได้แม้จะดื่มแล้ว นอนหลับไปก็ย่อมได้รับโทษจากสุราที่ดื่ม เช่น
“เสียทรัพย์ ทอนกำลังปัญญา ขาดความละอาย ไม่รักครอบครัว”เป็นต้น
หากจะทำอะไรผิดเพราะความเมาสุราเป็นเหตุ ความผิดก็เพิ่มขึ้นตามสมควรแก่เหตุ คนจึงไม่ควรสร้างความเคยชินในการกระทำบาปและไม่ควรดูหมิ่นว่าเป็นเรื่องเล็ก เพราะทุกอย่างเริ่มจากน้อยไปหามากทั้งนั้น.