เกาหลีใต้เป็นอีกประเทศหนึ่งที่หลายคนมีเป้าหมายว่าจะต้องไปเที่ยวให้ได้ ถึงแม้ว่าจะได้ยินเรื่องราวของความเข้มงวดในการตรวจคนเข้าเมือง กระทั่งมีผู้ติดอยู่ที่สนามบินก็ตาม แต่ด้วยวัฒนธรรม ประเพณีต่างๆ และความสวยงามของบ้านเมือง ตลอดจนนักร้อง-ดาราเกาหลี ทั้งหมดนี้ล้วนดึงดูดให้อยากไปเกาหลีให้ได้สักครั้ง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ซึ่งประเทศเกาหลีใต้ถือว่าเป็นประเทศที่รับอิทธิพลจากขงจื้อประเทศจีนมาอย่างเต็มๆ และนั่นเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจที่เชื้อเชิญให้หลายๆ คนอยากมีโอกาสไปสัมผัสกับประเพณีปีใหม่ของเกาหลีกันบ้างสักครั้ง
การฉลองเทศกาลปีใหม่ของประเทศเกาหลีใต้
ประเทศเกาหลีใต้มีการฉลองประเพณีปีใหม่ และมีคติความเชื่อเกี่ยวกับประเพณีปีใหม่ ดังนี้
ประเพณีปีใหม่ในเกาหลีใต้
ประเทศเกาหลีใต้ เรียกประเพณีปีใหม่ว่า ประเพณีซอลลาล หรือ ตรุษเกาหลี ซึ่งมีการรับวัฒนธรรมความเชื่อมาจากลัทธิขงจื้อประเทศจีนมาไว้ จึงทำให้มีประเพณีหลายอย่างคล้ายประเทศจีน โดยประเพณีปีใหม่ของเกาหลีใต้ มีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรชิลลา ซึ่งเป็นหนึ่งในอาณาจักรของเกาหลี ซึ่งประเพณีปีใหม่ของเกาหลีใต้ในแต่ละปี จะมีวันที่ไม่ตรงกันเท่าไหร่นัก เนื่องจากมีการถือเอาตามปฏิทินจันทรคติ แต่โดยทั่วไปจะถือว่าวันที่ 1 เดือน 1 เป็นวันตรุษเกาหลี หรือวันขึ้นปีใหม่เกาหลีใต้นั่นเอง
การเคารพผู้ใหญ่และไหว้ขอพรปีใหม่
ชาวเกาหลีใต้ นิยมเดินทางกลับไปต่างจังหวัด เพื่อกลับไปเยี่ยมครอบครัวในช่วงวันขึ้นปีใหม่ และกลับไปไหว้บรรพบุรุษ โดยตอนเช้าจะมีการใส่ชุดฮันบกสีสันสวยงาม ซึ่งเป็นชุดที่ดีที่สุด เพื่อไหว้และทำความเคารพผู้ใหญ่ในบ้านที่ยังมีชีวิตอยู่ อีกทั้งเพื่อแสดงการระลึกถึงพระคุณของท่านเหล่านั้น เรียกว่า แซแบ เมื่อลูกหลานก้มทำความเคารพ ผู้ใหญ่ในบ้านก็จะให้พร เพื่อความโชคดีและเป็นสิริมงคลแก่ลูกหลาน รวมทั้งการให้เงินของขวัญปีใหม่เรียกว่า แซแบตน ซึ่งถือเป็นเงินขวัญถุง นอกจากนั้นยังให้คำสอนที่ดีกับลูกหลาน เพื่อใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไป หลังจากนั้นก็จะทานอาหารเช้าร่วมกัน ก่อนเดินทางไปเคารพหลุมศพของบรรพชน เรียกว่า ซอง มโย
การเคารพบูชาและระลึกถึงบรรพชน
คนเกาหลีจะให้ความสำคัญกับการเคารพนับถือ และระลึกถึงบุญคุณของบรรพชนมาก ซึ่งในแต่ละปีจะมีการกลับไปยังบ้านเกิด เพื่อไหว้เคารพหลุมศพหรือสุสานของบรรพชน และนำสิ่งของต่างๆ ไปไหวที่หลุมศพนั้นด้วย เพราะเชื่อตามคำสอนของพ่อแม่และผู้ใหญ่ที่สอนว่า ต้องให้ความเคารพต่อผู้ใหญ่ รวมถึงบรรพชนผู้ตายจากโลกนี้ไปแล้วด้วย ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิต คือ การเคารพบูชากราบไหว้บรรพชน เพราะเชื่อว่าหากลูกหลานทำดีและเหมาะสม จะทำให้มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตและหน้าที่การงาน
การใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสวยงามให้เด็กชาวเกาหลี
ความเชื่อและการปฏิบัติต่อกันมาจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง คือ ความเชื่อว่าในวันปีใหม่จะต้องมีการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เด็กๆ ได้ใส่เสื้อผ้าใหม่ เรียกว่า ซอลบิม เป็นเสื้อผ้าที่เน้นสีสันสวยงาม เน้นความหลากหลายของสีสันบนชุดนั้น เนื่องจากเชื่อว่าสีสันหลากสี จะทำให้เด็กๆ มีอารมณ์ร่าเริงแจ่มใส เป็นคนที่แข็งแรง และเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ด้วยความแข็งแรง จึงไม่แปลกในช่วงปีใหม่จะเห็นเด็กน้อยชาวเกาหลี ได้ใส่เสื้อผ้าใหม่สวยงาม เพราะความเชื่อนี้ ทำให้พ่อแม่ชาวเกาหลี ต้องเตรียมชุดที่สวยงามที่สุดไว้ให้กับลูก ก่อนจะถึงวันปีใหม่ของแต่ละปี
อาหารที่ชาวเกาหลีนิยมทานในวันขึ้นปีใหม่
ความเชื่อเรื่องของการทานอาหาร เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ มีอยู่คู่กับทุกสังคมและทุกประเทศ รวมทั้งในประเทศเกาหลีใต้ด้วย โดยอาหารที่ชาวเกาหลีใต้นิยมทานในวันปีใหม่คือ ต๊อกกุก ซึ่งเป็นซุปแป้งข้าวเหนียว โดยการทานต๊อกกุกนี้มีความหมายเกี่ยวกับอายุขัย หมายถึง การมีอายุมากขึ้นไปอีกหนึ่งปี และผู้อาวุโสของเกาหลี จะถามลูกหลานว่า เคยทานต๊อกกุกมาแล้วกี่ชาม ความหมายคือ คุณมีอายุเท่าไหร่แล้วนั่นเอง ซึ่งไม่ว่าไปบ้านหลังไหนในเกาหลีในช่วงปีใหม่นี้ จะพบว่ามีการทานต๊อกกุกกันทุกครอบครัว
ปิดร้านค้าเพื่อไปเที่ยว
ชาวเกาหลีก็เหมือนกับคนในประเทศอื่นๆ ที่แม้จะเกิดอยู่ในเมืองหนึ่ง แต่พอโตขึ้นมาอาจจะได้ไปอยู่ในอีกเมือง จึงไม่แปลกใจว่าทำไมช่วงเทศกาลปีใหม่ ในประเทศเกาหลีร้านค้าต่างๆ โรงเรียนและสถานที่ราชการ จะปิดให้บริการเป็นจำนวนมาก เพราะเจ้าของร้านเหล่านั้นปิดในช่วงปีใหม่ เพื่อเดินทางกลับไปยังบ้านเกิด รวมทั้งเพื่อไปเคารพผู้ใหญ่และไหว้บรรพชนด้วย นอกจากนั้น ชาวเกาหลียังใช้ช่วงเวลาหยุดปีใหม่ทั้งสามวัน คือวันก่อนปีใหม่ วันปีใหม่ และวันหลังปีใหม่ ให้คุ้มค่าที่สุดด้วยการเดินทางออกนอกเมือง เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวในระหว่างวันหยุดนี้ ซึ่งสถานที่ที่ชาวเกาหลีชอบไป ได้แก่ ตามชายฝั่งตะวันออกของเกาหลี เช่น คังนึง ทงแฮ เพื่อไปต้อนรับแสงอรุณวันแรกของปีใหม่
การละเล่นในช่วงวันปีใหม่ของชาวเกาหลี
ชาวเกาหลีมีการละเล่นพื้นบ้านที่นิยมเล่นกัน คือ การเล่นยูนโนรี หรือการเล่นว่าว และการเล่นยอนนาลลีกี หรือการเล่นเตะกระดาษที่ห่อไว้คล้ายกับการเตะตะกร้อของไทย และทำเป็นเหมือนลูกขนไก่ รวมทั้งมีการเล่นเกมกระดานกับคนในครอบครัว ส่วนเด็กผู้หญิงชาวเกาหลี จะชอบเล่นนอลตวีกี เป็นเกมที่ต้องปลัดกันกระโดดลงบนไม้กระดานหก เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามลอยตัวขึ้นบนอากาศ นอกจากนั้นสิ่งที่เด็กๆ ชอบเล่น คือ การเล่นแพงี หรือการเล่นลูกข่าง
ชาวเกาหลีมีวัฒนธรรม และการฉลองปีใหม่ที่เน้นความเรียบง่าย รวมทั้งเน้นเรื่องการให้ความเคารพผู้ใหญ่และบรรพชน ซึ่งหลายประเทศควรนำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ซึ่งวัฒนธรรมที่ดีหลายอย่าง ทำให้เกาหลีใต้เป็นจุดหมายที่น่าสนใจเพื่อไปสัมผัสและเปิดประสบการณ์ในเทศกาลปีใหม่เกาหลีสักครั้ง แล้วคุณอาจจะหลงใหลจนต้องอยากกลับไปเยือนเกาหลีอีกหลายๆ ครั้งก็เป็นได้