คาถาเป็นคำสำหรับเชื่อมประสานเรากับเครื่องรางให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เช่นอย่างเครื่องรางด้านเมตตา ก็ต้องมีคาถาด้านเมตตากำกับ เพื่อให้ใจเราหรือสิ่งที่เราต้องการไปในแนงทางเดียวกับเครื่องรางนั้น ฉะนั้น ผมจึงคิดว่าคาถาเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องสวดกำกับเครื่องรางนั้น ๆ ไม่เช่นนั้นเครื่องรางจะไปรู้หรือว่าต้องการอะไร จะช่วยเรายังไง แค่พูดเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรมันง่ายเกินไปไหม การสวด การอธิษฐาน การเอ่ยบอกด้วยภาษาของตนเอง อย่างเช่นอธิษฐานหรือกล่าวว่า “สาธุ ขอให้รวย ๆ ปลัดขิกหัวคว…ช่วยลูกที” ก็เรียกว่าคาถาในความหมายของผมนะครับ ทุกคาถาก่อนสวดให้กล่าวนะโม 3 จบ เพื่อไม่ให้เราขาดจากพระรัตนตรัย หลังจากสวดคาถาแล้วพึงอธิษฐานตามแต่ปรารถนา
บทความแนะนำ พระเครื่อง เครื่องราง จำเป็นต้องสวดคาถากำกับไหม? จำเป็นต้องอาราธนาไหม?
คาถาปลัดขิก หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี
รุปิ รุปิ พุทธะจิตตัง พุทธะเมตตานัง มะหาสิเนหัง
ลิติ ลิติ กะรุณามะหาจิตตัง เมตตาพุทโธ
นะชาลิติ นะชาลิติ นะชาลิติ เอหิพันธัง มะหาสิเนหัง โหนตุ
คาถาปลัดขิกหลวงพ่ออี๋นี้ ผมได้กล่าวไว้แล้วในบทความ คาถาปลัดขิก หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี Khatha Palatkhik LP I
คาถาบูชาปลัดขิกหลวงพ่อยิด วัดหนองจาก
นะเฮ นะฮา ปะสกที่มา สีกาที่นั่ง หัวเราะให้ดัง
อุขิกตะขัก หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายทัก คนรักทั้งเมือง พาณิชพาไปค้าขาย ๓ เดือน ได้เลื่อนเป็นเศรษฐี
อุขิกตะขัก อุขิกตะขัก อุขิกตะขัก
คาถาปลัดขิกหลวงพ่อยิดนี้ ภาวนาหรือสวดก่อนพกติดตัว ถ้าพกติดตัวอยู่แล้ว ก็ให้ภาวนาก่อนออกเดินทางไปนอกบ้าน โดยเฉพาะไปทำการค้าขาย เชื่อกันว่าช่วยให้เด่นด้านเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ ค้าขายดี ทำมาหากินคล่องแคล่ว เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง อ่านเพิ่มเติม ปลัดขิกหลวงพ่อยิด
คาถาบูชาปลัดขิก หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก
อิติกะตา กันหะเนหะ อุมิอะมิ
เนื่องจากคาถาบูชาปลัดขิก หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ผมยังหาข้อมูลไม่เจอ แต่คาถาข้างบน เป็นคาถาที่นิยมจารบนปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ ฉะนั้น จะสวดเพื่อบูชาปลัดขิก หรือบูชาท่านก็คงไม่ผิด
คาถาบูชาปลัดขิกหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม สามพราน นครปฐม
คาถาปลัดขิกด้านเมตตาค้าขาย โอมมะศิวะลึงค์ กำลังจะหึงสวาโหม นะกะดอล่อhee ดอ ดา ดิ ดี๋ ดู๋ ดี๋ ฮิ ฮิ ฮิ
คาถาปลัดขิกด้านคงกระพัน โอมมะศิวะลึงค์ กำลังจะหึงสวาหับ นะโสภีโต พุทโธท้อ
คาถาปลัดขิกด้านแคล้วคลาด โอมมะศิวะลึงค์ กำลังจะหึงสวาหาย อะ นะ คิก คิก
– ท่านว่ามีเคล็ดการใช้อย่างนี้ ห้ามสวดคาถาปลัดขิกด้านเมตตาค้าขายคู่กับคาถาปลัดขิกด้านแคล้วคลาด แต่จะสวดคู่กับด้านคงกระพันได้ หรือด้านคงกระพันคู่กับด้านแคล้วคลาดก็ได้
– เวลาคาดเอวให้ปลัดขิกสัมผัสผิวหนัง ให้หันด้านเงี่ยงเข้าหาตัว
– ถ้าไม่ได้คาดเอว เมื่อสวดคาถาจบให้นำส่วนหัวปลัดขิกถูที่เอวตัวเอง โดยถูให้สัมผัสผิวหนัง
คาถาบูชาปลัดขิกนางครวญ หลวงพ่อคง สุวัณโณ วัดวังสรรพรส อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี
คาถาปลุกเสกปลัดขิกนางครวญ
โอมมะศิวะลึงค์ กำลังจะหึง สวาหะ อุปะสัมปะ สุนะโมโล
อุโลปะสุโล เวสสะพุสะ อิสะรุทัง จะภะกะสะ นะมะพะ
คาถาอาราธนาปลัดขิก หลวงพ่อคง
พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง
ลูกขออาราธนาหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี
ขอบารมีจากหลวงพ่อ ให้ลูกมีเมตตามหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม
อุดมด้วยโชคลาภ แคล้วคลาด คงกะพันชาตรี
ถ้าค้าขายให้ขายดีดังเทน้ำเทท่า
โอม พระศิวลึง กำลังจะหึง สวาหะ จงบังเกิดมีกับตัวลูก สาธุ
คาถาปลัดขิกนี้ ใช้สำหรับค้าขาย เป็นเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โชคลาภ แคล้วคลาด เป็นต้น
คาถาบูชาปลัดขิก หลวงปู่นนท์ วัดเขาพรานธูป จ.ประจวบคีรีขันธ์
นะเฮนะฮา ประสกที่มา สีกาที่นั่ง
หัวเราะให้ดัง อุขิก ตะขัก
หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายทัก
คนรักทั้งเมือง พานิชพาไป
ค้าขายสามเดือน ได้เลื่อนเป็นเศรษฐี
สามปี เต็มเรือสำเภา
อุขิกตะขัก อุขิกตะขัก อุขิกตะขัก
เนื่องจากท่านได้เรียนวิชาปลัดขิกมาจากหลวงพ่อยิดวัดหนองจอก คาถาบูชาปลัดขิกจึงคล้ายกัน
คาถาบูชาปลัดขิกหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน
โอม ปลัดขิกยิกท้ายยิกหัว
โอม ของแข็งยามมื้อแลงมึงไปเทียว มึงไปพ้อฮูเยียวของเหม็น
ผู้นึงว่าเอ็นผู้นึงว่ากระดูก ถืกบ่ถืกก็แทงเอาแทงเอา
สวดเป็นสำเนียงอีสานเด้อ จะได้โชคหมาน สาวฮักสาวแพง
คาถาบูชาปลัดขิก แบบอื่น ๆ ผมได้นำมาจาก sihawatchara.blogspot.com
อย่างที่โบราณกล่าวไว้ว่า ของดีมีเคล็ดการใช้ อาจจะนำมาเปิดเผยไม่หมด แต่เชื่อว่าด้วยปัญญาของท่านผู้อ่าน อ่านดูก็รู้ทันทีว่าคำที่หายไปคืออะไร หมายถึงอะไร
คาถาปลัดขิก บทที่ 1
โอม ศิวะลึงค์กำลังจะหึง สวาหะ
คาถาปลัดขิก บทที่ 2
อมมะ ศิวะลึงค์ กำลังจะหึง สวาโหม นะกะด_ล่อ Hee ฮิ ฮิ ฮิ
คาถาปลัดขิก บทที่ 3
โอมละลวย มะหาละลวย สามสิบสอง คว.. แห่ห้อมล้อม Hee ขายดิบขายดีแหก Hee กลับบ้าน
คาถาปลัดขิก บทที่ 4
โอม ละลวย มะหาละลวย สามสิบสองคว.. แห่ห้อมล้อม Hee ขายดิบขายดีแหก Hee กลับบ้าน ถ้าขายหมดขายดี จะให้ เย็.. Hee อีกเจ็ดที
คาถาปลัดขิก บทที่ 5
โอม ละลวย มะหาละลวย สามสิบสองคว.. มาแห่ห้อมล้อม Hee ข้าวของขายดีแหก Hee กลับบ้าน หิตังหิตัง ปิยังมะมะมามา
คาถาปลัดขิก บทที่ 6
โอม นะ กระด.. ดม Hee ฮิ ฮิ โอกขิก โอกขัก คึก ๆ คัก ๆ ผลุบ ๆ ผลัวะ ๆ
คาถาปลัดขิก บทที่ 7
อมมะ น้ำสามจอก กูขึ้นไปกรอกบนหลังคา ถอกขาวถอกเขียว ถอกเยี่ยวรดผ้า ถอกค้าคนกิน ถอกอินทะนิน นะอุทธัง นะอัทโธ นะโมพุทธายะ ปิตตุ อุททะ
คาถาปลัดขิก บทที่ 8
นะเฮนะฮา ประสกที่มา สีกาที่นั่ง หัวเราะให้ดัง อุกขิกตะขัก หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายทัก คนรักทั้งเมือง พาณิชพาไปค้าขาย สามเดือนได้เลื่อนเป็นเศรษฐี อุกขิกตะขัก อุกขิกตะขัก อุกขิตตะขัก ฤฤๅ ฦฦๅ นิมามานิมามา สัมปะติจฉามิ
คาถาปลัดขิก บทที่ 9
อม นะล่อ กระด.. Hee คว.. ลุกสามที Hee เป็นนะ อะอาอิอี ตำ Hee ฉึก ๆ
คาถาปลัดขิก บทที่ 10
อมมะลึง กำลังจะหึง สวาหะ
คาถาปลัดขิก บทที่ 11
โอมมะน้ำสามจอก กูจะขึ้นไปกรอกบนหลังคา ถอกขาวถอกเขียว ถอกเยี่ยวรดผ้า
ถอกค้าคนกิน ถอกอินทะนิน อีจ้อยกำจัดจักกระวัตเมืองแมน
พายเรือแหก Hee ตีกรรเชียงแหกแตด ไอ้หนามขี้แรดเกี่ยว คว..ช้าง
Hee ครอบผักกระจังมัง Hee ชาววังทาขมิ้นเหลืองอ่อน Hee นางมอญเหลืองอ๋อย Hee อีเป๋อดำมืดถึด
นะอุดธัง นะอัดโธ
นะโมพุทธายะ ปิดตุอุทธะ
คาถาปลัดขิก บทที่ 12
โอม น้ำสามจอก กูจะกรอกขึ้นบนหลังคา ถอกขาวถอกเขียวถอกเยี่ยวรดผ้า ถอกฆ่าคนตาย ถอกขายคนกิน ถอกอินทะนิน ถอกนอกฟ้าป่าหิมพานต์ ถอกกินบ้าน ถอกกินเมือง
โอม อีจ้อยจักกระวัต ยกกระบัตรเมืองนนท์ ขุนพลนพบุรี พายเรือแหก Hee ตีกรรเชียงถอกแตดนอนหงายแตดแห้ง นอนตะแคงแตดชุ่ม
โอม มะรุมมะรุม พอทำเนาเอาเถิด หนามขี้แรดเกี่ยว คว..ช้างคน Hee กว้างสะบัดเหนียก คน Hee เปียกสะบัดหนอก
โอม น้ำสามจอก รดหัวถอกไม่หนาว ขี้ปาวน้ำมะเหนียก ขี้เปียกน้ำมะนาวเพี้ยง อะสังวิสุโลปุสะพุภะ แหกแยกตะลุมเปรอะ อุตตุอัตตะ อัตตะอุตตุ สัมปิด อุดอัด พัดอุดนะปิดลูก โมปิดดิน พุทปิดไฟ ธาปิดปากกระบอก ยะมิให้ออก ด้วยอิกะวิติ ติวิกะอิ อะระหังเพชชะ เพชชะคงคงพุทธังคงเนื้อ ธัมมังคงหนัง สังฆังคงกระดูก ทรหด
อมคง คงทั้งนั่งคงทั้งยืน คงทั้งหลับคงทั้งตื่น คงทั้งกลางวันคงทั้งกลางคืน
โอม คงคง มะหาคงคง คงตรีเพชชะคงคง คงกัณหะเนหะ เนหะกัณหะทอระมิมิ พุทธังพระอะระหัง พันธะปิด พุทธังพระอิติ ธัมมังพระอิติ ปิดมิด อิติเกวะพันธะยักษาสัพพะกุมภัณทานัง ปิสาเจวะ อัพพะยายันติ.
คาถาปลัดขิก บทที่ 13
อมมะ ศิวะลึงค์ กำลังจะหึง สวาโหม
นะกะด.. ล่อ Hee ดอ ดา ดิ ดี ดู๋ ดี๋ ฮิ ฮิ ฮิ
คาถาปลัดขิก บทที่ 14
โอมมะ น้ำสามจอก กูจะถอกขึ้นบนหลังคา
ถอกขาวถอกเขียว ถอกเยี่ยวรดผ้า
ถอกฆ่าคนตาย ถอกขายคนกิน
ถอกอินทะนิน ถอกนอกฟ้าป่าหิมพานต์
ถอกกินบ้าน ถอกกินเมือง
โอมอีจ้อยจักกะรัต ยกกระบัตรเมืองนนท์
ขุนพลลพบุรี ถือด้ายแหก Hee
ตีกรรเชียงถอกแตด หนามขี้แรดเกี่ยว คว.. ช้าง
คน Hee กว้างสะบัดเหนียก
คน Hee เปียกสะบัดถอก
โอมมะ น้ำสามจอก ถอกรดไม่หนาว
ขี้ปาวน้ำมะเหนียก ขี้เปียกน้ำมะนาว
แหกๆ แยกๆ สะมิด
อุดอัด พัดอุด อุดตุ อุดตะ
นะโมพุทธายะอุด
คาถาปลัดขิก บทที่ 15
นะหารู นะหารู
นะหารู หะ หะ หะ
หา หา หา Hee Hee Hee
โอกขิก โอกขัก โอกทัง
ท่านปลัดจงเรียกคนให้มาคับคั่ง
ค้าขายดีดี ขิก ๆ ขัก ๆ
พุทธคุณ ปลัดขิก
ขออนุญาตใช้คำว่า พุทธคุณ ปลัดขิกนะครับ อันที่จริง ควรจะใช้คำว่า อิทธิคุณ ปลัดขิก คุณของปลัดขิก หรืออานุภาพของปลัดขิก พุทธคุณของปลัดขิกนั้นขึ้นอยู่กับว่าอาจารย์ผู้สร้างและเสกนั้นเน้นไปทางในด้านไหน จารด้วยอักขระบทไหน เสกด้วยคาถาบทไหน แต่พอสรุปได้ดังนี้
- กันงู สัตว์มีเขี้ยวมีพิษทั้งหลาย ซึ่งปลัดขิกที่เด่นด้านนี้โดยเฉพาะได้แก่ปลัดขิกหลวงปู่เมฆ
- เป็นเมตตา เป็นที่รักเอ็นดูของผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ให้ความเมตตาเอ็นดู
- มหานิยม เป็นที่รักของคนทั่วไป แม้เห็นกันครั้งแรก ฟังเสียงครั้งแรกก็รักนิยม
- เป็นมหาเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม มัดใจผูกใจเพศตรงข้าม
- ช่วยเรียกลูกค้า ค้าขายดี มีคนมาห้อมล้อม
- เรียกเงิน เรียกโชคลาภเข้ามา
- แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่าง ๆ
- ที่เป็นมหาอุด คงกระพันชาตรีก็มี
- กันคุณไสย มนต์ดำ สิ่งไม่ดีที่มองไม่เห็น
- กันภูตผี กันวิญญาณร้ายหมายชีวิตเรา คนโบราณจึงนิยมห้อยปลัดขิกที่เอวเด็ก
- นอกจากนั้นความขลังหรือพุทธคุณของปลัดขิกยังขึ้นอยู่กับไม้ที่นำมาทำปลัดขิกอีกด้วยครับ